Last updated: 10 มิ.ย. 2565 | 159 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัญหารถยางแตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและอาจเกิดได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่คาดคิด แต่หากเกิดยางแตกกลางทางขึ้นมาเมื่อไรสิ่งที่ต้องทำก็คือตั้งสติ จากนั้นจึงหาวิธีแก้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมทางคันอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเกร็ดความรู้จากโตโยต้า ลีสซิ่ง จะพาไปหาคำตอบกันว่าสาเหตุที่ทำให้รถยางแตกเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
รถยางแตกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นยางเสื่อมสภาพ ยางหมดอายุการใช้งาน ยางมีรอยปริแตก ฉีกขาด เกิดจากการบรรทุกของหนักเกินกำหนด หรือไปเหยียบของมีคมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก่อนยางจะแตกอาจมีสัญญาณเตือนบางอย่าง เช่น รถเกิดอาการสั่น พวงมาลัยสั่นมากผิดปกติ บังคับรถยากโดยเฉพาะเมื่อต้องเลี้ยวหรือเข้าโค้ง หากพบว่ารถมีอาการดังกล่าวต้องรีบหลบเข้าข้างทางและตรวจเช็กอาการทันที เพราะนี่คือสัญญาณเตือนก่อนยางแตกนั่นเอง
แต่ถ้าหากยางแตกกลางทางโดยไม่ทันตั้งตัว สิ่งแรกที่ต้องทำคือจับพวกมาลัยให้มั่นคงเข้าไว้ และพยายามรวบรวมสติอย่าตกใจจนหักเลี้ยวกระทันหัน เพราะยางระเบิดจะทำให้รถส่ายจนเสียการควบคุมได้ ดังนั้นจึงต้องพยายามประคองรถเอาไว้ให้มั่นเป็นอันดับแรก
จากนั้นจึงผ่อนคันเร่งและแตะเบรกเบา ๆ เมื่อรถความเร็วลดลงแล้วจึงนำรถเข้าเลนซ้ายและจอดที่ไหล่ทาง แต่หากยางแตกกลางทางขณะอยู่เลนขวาหรือเลนกลางก็ให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันอื่นทราบว่ารถของคุณเกิดปัญหาขึ้น ที่สำคัญห้ามใช้เบรกมือช่วยลดความเร็ว เพราะอาจทำให้รถหมุนกลางถนนจนชนรถคันอื่นหรือเสียหลักพลิกคว่ำได้
ปัญหายางแตกกลางทางอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องมีสติ เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องค่อย ๆ จัดการไปทีละลำดับตามแนวทางที่แนะนำไปข้างต้น นอกจากนี้ต้องรู้จักเลือกยางให้เหมาะสมกับรถ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดยางแตก โดยต้องเลือกยางให้ถูกขนาด เหมาะสมกับน้ำหนักและประเภทรถ เป็นวิธีแรกที่ช่วยป้องกันยางระเบิด ที่สำคัญไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลก็ควรนำรถเข้าเช็กสภาพ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ตรวจสอบเครื่องยนต์ อุปกรณ์ และล้อยางด้วยทุกครั้ง หากพบว่ายางเสื่อมหรือหมดอายุควรเปลี่ยนทันทีเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน
ยางแตกกลางทางอาจฟังดูน่ากลัวแต่หากมีสติและรับมืออย่างใจเย็นก็จะช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้แน่นอน อย่างไรก็ตามการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกยางให้เหมาะและตรวจเช็กรถอยู่เสมอตามที่แนะนำไป นอกจากนี้ต้องรู้จักสังเกตอาการผิดปกติของรถระหว่างขับขี่ หากพบว่ามีสัญญาณความผิดปกติควรจอดเช็กหรือนำรถเข้าอู่ทันที ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงตามมาได้
10 มิ.ย. 2565
10 มิ.ย. 2565
10 มิ.ย. 2565